วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดบทที่2


1. จากส่วนประกอบทั้ง 7 ส่วนของระบบสารสนเทศ ส่วนใดที่ถือเป็นแหล่งจัดเก็บข้อมูลของระบบสารสนเทศ
ตอบ ส่วนการจัดการฐานข้อมูล ซึ่งเป็นหน่วยเก็บข้อมูลทางกายภาพสำหรับข้อมูลที่อาจมีความเกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับการเงิน ซึ่งอาจจะถูกจัดเก็บภายในตู้เอกสารหรือในแผ่นจานแม่เหล็ก ก็ได้ ส่วนข้อมูลที่จัดเก็บในฐานข้อมูล จะประกอบด้วยหน่วยเก็บข้อมูลที่เรียงลำดับจากหน่วยที่เล็กที่สุดไปหาหน่วยที่ใหญ่ที่สุด คือ ลักษณะประจำ ระเบียน และแฟ้มข้อมูล

2. ในส่วนผลป้อนกลับของระบบสารสนเทศ ก่อให้เกิดประโยชน์ในอนาคตของการจัดการระบบสารสนเทศอย่างไร
ตอบ ผลป้อนกลับ (Feedback) จะอยู่รูปของรายงานที่เป็นผลลัพธ์ ซึ่งจะถูกส่งกลับไปยังระบบของต้นทางข้อมูลทั้งภายในและภายนอก ช่วยปรับเปลี่ยนกระบวนการ เช่น รายงานแสดงสถานะของสินค้าคงเหลือ เพื่อปรับยอดสินค้าคงเหลื
3. หากท่านดำเนินธุรกิจร้านมินิมาร์ทแห่งหนึ่ง ท่านเลือกที่จะนำสารสนเทศประเภทใดบ้างมาใช้ในธุรกิจ เพราะเหตุใด
ตอบ ใช้ระบบสารสนเทศตามหน้าที่งาน เพราะเป็นการรองรับการทำงานของแผนกต่าง ๆ จำแนกความรับผิดชอบหน้าที่งานในองค์กร ทำให้ผู้ปฏิบัติงานรู้ถึงหน้าที่และความรับผิดชอบของตนเอง อีกทั้งช่วยสนับสนุนในด้านการจัดการงานประจำที่ทำซ้ำ ๆ กัน เช่น การเตรียมจ่ายเงินเดือนพนักงาน หรือการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้า เป็นต้น

4. ระบบสารสนเทศถูกวางไว้ที่ตำแหน่งใดภายใต้โซ่คุณค่าขององค์กร จงอธิบาย
ตอบ ระบบสารสนเทศจะช่วยสร้างคุณค่าให้กับสินค้าและบริการผ่านการดำเนินกิจกรรมย่อย เช่น การเสนอขายสินค้าและบริการที่แตกต่างจากคู่แข่ง เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้า การเปิดธุรกิจบนเว็บไซต์ เพื่อเสนอขายสินค้าและบริการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้จากการขายอีกทางหนึ่ง
5. จงระบุถึงประโยชน์ที่องค์การจะได้รับภายใต้การใช้ระบบสารสนเทศที่ดี
ตอบ ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลการทำงาน เช่น มีการตรวจสอบกำลังการผลิตของเครื่องจักร การตรวจสอบคุณภาพของสินค้า มีการพัฒนาการตัดสินใจที่ดีขึ้น สร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน เช่น การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและมีการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง

6. จงอธิบายแนวโน้มของระบบสารสนเทศในอนาคต
ตอบ จะมีการมุ่งเน้นด้านการบูรณาการระบบสารสนเทศ โดยอาศัยเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีเว็บ อีกทั้งมีการพัฒนาระบบสารสนเทศบนเว็บที่มีต้นทุนต่ำ และยังเพิ่มขีดความสามารถของระบบเดิม ซึ่งใช้ในส่วนของการเชื่อมต่อระบบสารสนเทศภายในองค์การและระหว่างองค์การ เพื่อบรรลุเป้าหมายการแพร่กระจายสารสนเทศไปทั่วโลก
7. ระบบสารสนเทศประเทศใด ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือ ในการเชื่อมโยงโซ่คุณค่าขององค์การเข้ากับโซ่คุณค่าขององค์การภายนอก
ตอบ ระบบสารสนเทศระหว่างองค์การ ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อระบบสารสนเทศระหว่าง 2 องค์การขึ้นไป เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของการประมวลผลธุรกรรม ให้การสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ระหว่างองค์การ

8. จงอธิบายการเชื่อมโยงต่อระบบสารสนเทศระหว่างองค์การกับอีคอมเมิร์ช
ตอบ ยกตัวอย่างเช่น การซื้อเครื่องใช้สำนักงานภายใต้ระบบมือกับระบบอีคอมเมิร์ช ซึ่งภายใต้การสั่งซื้อระบบมือ เจ้าหน้าที่จะต้องได้รับอนุมัติสำหรับการซื้อที่มีกำไร โดยจัดส่งใบขอซื้อไปยังแผนกจัดซื้อ หลังจากนั้นออกใบสั่งซื้ออย่างเป็นทางการ เมื่อเปรียบเทียบกับกระบวนการสั่งซื้อทางอีคอมเมิร์ชผู้สั่งซื้อจะตรงไปที่เว็บไซต์ของผู้ขาย และสั่งซื้อสินค้าตามที่ต้องการ ณ ระดับราคาที่กำหนดไว้

9. จงอธิบายการทำงานของคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่และลูกจ้างเคลื่อนที่
ตอบ คอมพิวเตอร์ คือ ตัวอย่างระบบคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบสำหรับลูกจ้างเคลื่อนที่ ซึ่งผู้ใช้มักเกิดความต้องการด้านการเชื่อมต่อเข้ากับระบบสารสนเทศขององค์การ โดยใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่

10. จงยกตัวอย่างระบบสารสนเทศบนเว็บที่มีการเชื่อมต่อกับระบบสารสนเทศอื่นมา 2 ตัวอย่าง
ตอบ 1.อินเทอร์เน็ต คือ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ถูกนำมาใช้ทั่วโลก ผู้ใช้คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ๆ สามารถรับสารสนเทศจากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นได้ ซึ่งถือเป็นเครือข่ายสาธารณะ
2. เอกซ์ทราเน็ต ถูกเชื่อมต่อกับอินทราเน็ตผ่านทางอินเตอร์เน็ต สร้างรูปแบบเครือข่ายเสมือนจริงซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้ทางไกล สามารถเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ตกับเอกซ์ทราเน็ตหลักขององค์กร มุ่งเน้นการใช้สารสนเทศร่วมกัน

วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดบทที่1


แบบฝึกหัดบทที่1

(1) จงเปรียบเทียบข้อแตกต่างของ ข้อมูล และสารสนเทศ มาพอเข้าใจ
        ตอบ ข้อมูล(Data) คือคำพรรณนาถึงสิ่งของ เหตุการณ์ กิจกรรม และธุรกรรม ซึ่งถูกบันทึกจำแนกและจัดเก็บไว้ภายในแหล่งเก็บข้อมูล แต่ยังไม่มีการจัดโครงสร้างเพื่อถ่ายโอนไปยังสถานที่เฉพาะเจาะจง โดยข้อมูลอาจอยู่ในรูปแบบ ตัวอักษร ตัวเลข รูปภาพ หรือเสียงก็ได้ และข้อมูลอาจถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบภายในฐานข้อมูลของคอมพิวเตอร์ ส่วน

สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่ถูกจัดโครงสร้างให้อยู่ในรูปแบบที่มีความหมายและมีมูลค่าต่อผู้รับ โดยมีการนำข้อมูลผ่านกระบวนการประมวลผลและจัดให้อยู่ในรูปแบบที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน อีกทั้งสามารถนำไปใช้ประโยชน์สำหรับการตัดสินใจได้

(2 )การจัดแบ่งหน้าที่งานทางธุรกิจมีความสัมพันธ์กับโครงสร้างองค์การอย่างไร
         ตอบ ในการจัดแบ่งหน้าที่งานทางธุรกิจสะท้อนให้เห็นถึงอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของบุคลากรในองค์การ โดยมีการปฏิบัติตามกิจกรรมการดำเนินงานของแต่ละหน่วยงานที่มีส่วนช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์การเพื่อให้เข้าใจรูปแบบของการจำแนกความแตกต่างของภาระงาน อำนาจหน้าที่รวมทั้ง การรายงานภาระรับผิดชอบ โดยแสดงสายการบังคับบัญชา ซึ่งสายการบังคับบัญชาหากจะมีความสัมพันธ์กับหน้าที่งานทางธุรกิจ จึงก่อให้เกิดโครงสร้างองค์การของธุรกิจ โดยมีการจัดแบ่งเขตพื้นที่รับผิดชอบตามภาระงานและอำนาจหน้าที่ซึ่งแตกต่างกันไป ภายใต้ภาพรวมของหน้าที่งานทางธุรกิจ

(3) การลงทุนเพื่อจัดตั้งธุรกิจใหม่ จะต้องดำเนินตามขั้นตอนอย่างไร
         ตอบ ในการจัดตั้งธุรกิจใหม่จะต้องดำเนินตามขั้นตอนดังนี้คือ
                  3.1  ควรจัดหาเงินลงทุนในธุรกิจ เป็นเงินสดในการเริ่มลงทุนธุรกิจที่ต้องมีเงินทุนเพียงพอในการดำเนินธุรกิจ
                  3.2 สินค้า จัดหาสินค้าที่จะนำมาลงทุนที่สามารถสร้างมูลค่าทางธุรกิจ และตรงต่อความต้องการของลูกค้า
                  3.3 วัสดุและอุปกรณ์สำนักงาน ควรจัดหาให้พร้อ
                  3.4 สถานที่ประกอบกิจการ ธุรกิจควรที่จะหาทำเลที่ตั้งในการดำเนินงานที่เหมาะสมและเป็นสถานที่ที่สามารถสร้างมูลค่าได้ในการทำธุรกิจ
                  3.5 การว่าจ้างแรงงาน นี้ก็เป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธูรกิจ

(4) จงเปรียบเทียบการประยุกต์ใช้ข้อมูลของระดับปฏิบัติการและระดับบริหาร
         ตอบ สำหรับแนวทางการใช้สารสนเทศทางธุรกิจในระดับปฏิบัติการ เป็นการใช้ข้อมูลของธุรกิจภายใต้ระดับปฏิบัติการ เปรียบเสมือนกะจกเงาที่คอยสอดส่องดูแลงานด้านต่างๆ เช่นการประมวลผล การบันทึก และการรายงานเหตุการณ์ทางธุรกิจ โดยมีการใช้สารสนเทศช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการรับคำสั่งซื้อจากลูกค้า ส่วนระดับบริหาร กระบวนการสารสนเทศ จะเป็นเครื่องมือช่วยสนับสนุนกิจกรรมด้านการจัดการ ตลอดจนการตัดสินใจทางธุรกิจ โดยสามารถจำแนกวิธีการที่ผู้จัดการหรือผู้บริหารนิยมใช้ประโยชน์จากสารสนเทศทางธุรกิจดังนี้
                  1 ใช้ติดตามการปฏิบัติงานในปัจจุบัน
                  2 ใช้สร้างความพึงพอใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัท


(5) ผู้บริหารของบริษัทได้รับทราบงบการเงิน ในช่วงเวลาที่ต้องการตัดสินใจ แต่ข้อมูลในงบการเงินนั้นมีข้อผิดพลาดเล็กน้อย จะมีผลต่อมูลค่าของสารสนเทศที่ผู้บริหารได้รับอย่างไร
          ตอบ หากเกิดข้อผิดพลาดทางสารสนเทศ ซึ่งผู้บริหารก็จะได้รับผลกระทบ มีผลให้เกิดมูลค่าของสารสนเทศที่จัดได้ในระดับต่ำ

(6)กรณีที่ผู้บริหารในระดับควบคุมปฏิบัติการ ได้รับสารสนเทศที่มีรายละเอียดไม่พอต่อการตัดสินใจ อาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างไร
           ตอบ 1เกิดภาระของสารสนเทศที่มากเกินความจำเป็น สำหรับการบริการสารสนเทศแก่ผู้บริหารจะต้องระมัดระวังในเรื่องปริมาณของสารสนเทศที่จัดส่งให้มีความเหมาะสมกับความต้องการและระยะเวลาที่จำกัดของการใช้สารสนเทศนั้นๆ
                    2 มาตรการวัดผลการดำเนินงานที่ไม่เหมาะสม จะส่งผลให้เกิดผลัพธ์ที่ตรงกันข้าม กับความต้องการได้ด้วยเหตุผลนี้ จึงควรพิจารณาเลือกใช้เกณฑ์ที่เหมาะสมและมีความหลากหลาย

(7) การสั่งการของผู้บริหารระดับสูง ในเรื่องนโยบายเงินปันผลต่อผู้บริหารระดับกลางให้ควบคุมการจ่ายเงินปันผลแก่พนักงานทุกคน ถือเป็นสายงานด้านสารสนเทศในลักษณะใด
            ตอบ สายงานด้านสารสนเทศในแนวดิ่ง คือสายงานที่เกิดจากระดับชั้นของการบริหารงานในองค์การ ซึ่งจำแนกได้ 2 ประเภทคือ
                    7.1 การรายงานผลการปฏิบัติงา
                    7.2 การงบประมาณและการสั่งการ

(8) จงยกตัวอย่างโครงสร้างกระบวนการทางธุรกิจของบริษัทบริการโทรศัพท์มือถือ
             ตอบ โครงสร้างกระบวนการธุรกิจมือถือมีรายละเอียดดังนี้
                     1 กระบวนการปฏิบัติการ
                     2 กระบวนการจัดกาi
                     3 กระบวนการสารสนเทศ

(9) องค์การดิจิทัลมีความแตกต่างกับองค์การธุรกิจทั่วไปอย่างไร
             ตอบ องค์การดิจิทัลคือ องค์การที่มีการทำงานในหลากหลายมิติ โดยอาศัยความสามารถด้านดิจิทัลและสื่อดิจิทัล จัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทางธุรกิจ โดยเฉพาะในส่วนที่ติดต่อกับลูกค้า ส่วนองค์การธุรกิจทั่วไป คือองค์การธุรกิจทั่วไปจะอาศัยเพียงแต่คนเข้ามาทำงานและทำงานได้ช้ากว่าองค์การดิจิทัลความถูกต้องแม่นยำก็มีน้อยกว่า

(10) องค์การควรดำเนินการอย่างไรเพื่อสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งขันทางธุรกิจ
              ตอบ เพื่อสร้างโอกาสแห่งความสำเร็จทางธุรกิจ โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือช่วยสนับสนุน โดยมี 7 วิธี คือการจัดการกลยุทธ์ จุดศูนย์รวมลูกค้า การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การปรับกระบวนการทางธุรกิจ นวัตกรรมด้านการผลิต ตามคำสั่ง และการผลิตแบบสั่งทำในปริมาณมาก ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งอีคอมเมิร์ซ และพันธมิตรทางธุรกิจ

แบบฝึกหัดบทที่ 2 GIGO

1.             GIGO มาจากคำเดิมว่าอย่างไร โดยนิยามดังกล่าวต้องการมุ่งเน้นถึงสิ่งใดเป็นสำคัญ
ตอบ            gigo  (กิโก) ย่อมาจาก garbage in ,  garbage out พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถานแปลว่า เข้าผิด ออกผิดแต่ถ้าแปลตามตัวจะได้ว่า ขยะเข้า ขยะออก เป็นคำกล่าวที่ใช้เตือนสติผู้ใช้คอมพิวเตอร์ว่า
ถ้าใส่ข้อมูลที่ไร้คุณค่าลงไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องก็มิอาจจะทำให้ข้อมูลนั้นมีค่าขึ้นมาได้เลย อีกนัยหนึ่งเป็นการบอกให้นักคอมพิวเตอร์มือใหม่รู้ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์หาใช่สิ่งมหัศจรรย์ที่จะเนรมิตข้อมูลเลว ๆ ให้เป็นสารสนเทศ (information) ดี ๆ ได้ ถ้าใส่ขยะ (ข้อมูลไม่ดี) เข้าไปก็จะได้ขยะ (สารสนเทศไม่ดี)
ออกมา

2.             การที่องค์กรหรือภาคธุรกิจทั่วไปในปัจจุบันนิยมนำระบบสารสนเทศมาใช้งานกันมาขึ้น และสามารถเป็นเจ้าของระบบสารสนเทศกันง่ายขึ้น สืบเนื่องมาจากสาเหตุใด ยกตัวอย่างประกอบ
ตอบ       สารสนเทศมีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ที่เรียกว่า เศรษฐกิจบนฐานความรู้ (knowledge-based economy)  หน่วยงานหรือผู้ประกอบการธุรกิจให้ความสำคัญกับ  “การจัดการความรู้”  (knowledge management)  เพื่อรักษาองค์ความรู้ขององค์กรไว้    สารสนเทศด้านธุรกิจจึงถือเป็นต้นทุนการผลิตที่สำคัญในการแข่งขัน  ทั้งนี้เพราะสารสนเทศช่วยประหยัดเวลาในการผลิต  ลดขั้นตอนการลองผิดลองถูก  อีกทั้งช่วยให้องค์กรได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้ตามความต้องการของตลาด นโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย    ได้ตระหนักถึงความสำคัญของสารสนเทศ     จึงมุ่งปรับฐานเศรษฐกิจไปสู่การเป็นเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพบนพื้นฐานความรู้   มีการสร้างความพร้อมและความรอบรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อนำมาประยุกต์ใช้และพัฒนานวัตกรรมของตนเองอย่างเหมาะสม ควบคู่ไปกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์   ตัวอย่างเช่น ธนาคาร ที่ได้นำระบบเอทีเอ็มมาใช้ในการดำเนินงาน ที่สามารถช่วยในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีบริการที่ทันสมัย สะดวกต่อการใช้งาน ซึ่งตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

3.             อยากทราบว่าเหตุผล 3 ประการที่ธุรกิจต่างก็นำระบบสารสนเทศมาใช้ในองค์กรมีอะไรบ้าง
ตอบ       การนำเอาระบบสารสนเทศมาใช้ในองค์กรเนื่องมาจากเหตุผล 3 ประการ คือ
1)            ช่วยสนับสนุนกระบวนการทางธุรกิจ
2)            เพื่อช่วยให้กระบวนการในองค์กรและการปฏิบัติงานช่วยสนับสนุนการตัดสินใจ
3)            เพื่อช่วยให้ผู้บริหารมีการตัดสินใจที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ ยังช่วยหาแนวทางในการตัดสินใจ ช่วยสนับสนุนความได้เปรียบในการแข่งขัน เพื่อช่วยเตรียมสินค้าและบริการที่ทำให้ธุรกิจมีความได้เปรียบมากกว่าคู่แข่ง ( O'Brien and Marakas, 2007 : 9)

4.             ให้ยกตัวอย่างที่บอกถึงกิจการที่ปรับปรุงกระบวนการธุรกิจใหม่ด้วยการนำสิ่งใดมาประยุกต์ใช้
ตอบ       UPS แข่งขันไปทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
บริษัท United Parcel Service หรือ UPS ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่อันดับหนึ่งของโลกในด้านการจัดส่งพัสดุทางบก ทำการก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2450 และยังคงเป็นบริษัทอันดับหนึ่งในปัจจุบันจากการที่ไม่เคยหยุดอยู่กับการพัฒนาบริการให้ดีขึ้น
           UPS ใช้คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่เรียกว่า Hand-held Computer การบันทึกข้อมูลลายเซ็นลูกค้าเวลาที่รับ หีบห่อและเวลาที่ส่ง หีบห่อ จากนั้นส่งผ่านข้อมูลโดยผ่าน ระบบเครือข่ายของโทรศัพท์ไร้สาย หรือ Cellular Telephone Network ภายในรถไปยังคอมพิวเตอร์หลักของบริษัทที่ตั้งอยู่ทั่วโลกทำให้สามารถทราบได้ว่าพัสดุอยู่ที่ไหน
           ซึ่งระบบนี้จะใช้ บาร์โค้ด ( Bar Code ) เป็นตัวบันทึกข้อมูลหีบห่อที่รับและส่งเพื่อส่งผ่านข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ส่วนกลาง ทำให้ฝ่ายขายสามารถตอบคำถามลูกค้าเกี่ยวกับพัสดุได้รวมทั้งลูกค้าของ UPS สามารถเข้าไปตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ได้เองทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต หรือ ( WWW ) หรือการใช้ซอฟต์แวร์พิเศษของ UPS รวมทั้งลูกค้าสามารถเข้าไปใน WWW  ตรวจสอบเส้นทางการขนส่ง คำนวณอัตราค่าส่งหีบห่อ และจัดตารางการรับ/ส่งหีบห่อได้และในอนาคตก็จะสามารถจ่ายค่าส่งทางอินเตอร์เน็ตได้
           นอกจากนี้ตั้งแต่ปี 2534 UPS ยังเสนอบริการใหม่ด้วยการส่งสินค้าภายใน 24 ชั่วโมง และบริษัทยังสามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางหรือหยุดการส่งในระหว่างทางได้หากลูกค้าต้องการ
ข้อมูลจาก              http://pirun.kps.ku.ac.th/~b5128090/dex16.html
                http://dict.longdo.com/index.php?lang=en&search=gigo

วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

งานกลุ่ม กรณีศึกษา Ford Motor Company

งานกลุ่ม กรณีศึกษา Ford Motor Company

คำถามจากกรณีศึกษา
1. อินทราเน็ต และเอ็กซ์ทราเน็ต ช่วย Ford ในการเปลี่ยนแปลงกระบวนการการทำงานทางธุรกิจได้อย่างไร
ตอบ คือช่วยให้ประหยัดเงินได้มากมาย ช่วยให้ Ford เปลี่ยนแปลงการทำธุรกิจ จาก ผลิตและขาย หันมาเป็นกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นแบบ ผลิตตามความต้องการ เช่น ข้อมูลวิจัยทางการตลาดเรื่ององค์ประกอบของคู่แข่งและอันดับผู้จัดหาสินค้าที่มีประสิทธิภาพในเรื่องของอะไหล่ ระบบพัฒนาสินค้าของผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งถูกทำเป็นเอกสารเกี่ยวกับขั้นตอนเป็นพันๆ ขั้นตอนในกระบวนการผลิต การประกอบ และการทดสอบ ได้ถูกทำให้ทันสมัย ทุกๆชั่วโมงบนอินทราเน็ต ทำให้วิศวกร นักออกแบบ และผู้จัดหาสินค้าทำงานจากข้อมูลเดียวกัน ซึ่งทำให้กระบวนการต่างๆดำเนินไปอย่างไม่ติดขัด การมุ่งไปสู่การผลิตตามความต้องการ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องการการประสานงานในการขนส่งและการประกอบชิ้นส่วนนับพันชิ้นส่วน Ford ใช้เอ็กซ์ทราเน็ตเพื่อเปิดอินทราเน็ตของตนให้แก่ผู้จัดหาสินค้ารายใหญ่ๆ อนุญาติให้ผู้จัดหาสินค้าได้ข้อมูลที่ชัดเจนลงไป

2. ผลประโยชน์ทางธุรกิจที่ได้จากการเปลี่ยนแปลงกระบวนการการทำงานของ Ford ก่อให้เกิดอะไรบ้าง
ตอบ ในปี 1996 การส่งรถยนต์ Mustsng จากโรงงานไปสู่ตัวแทนจำหน่ายจะใช้เวลาเพียง 15 วันจากเดิมที่ต้องใช้เวลา 50 วัน คือผลิตยานยนต์ให้ได้ตามความต้องการ ประหยัดเงินได้หลายล้านเหรียญสหรัฐในสภาพคลังสินค้าและค่าใช้จ่ายปัจจุบัน

3.ผลกำไรที่ Ford หวังว่าจะได้รับจากการใช้อินเทอร์เน็ต เพื่อให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในขั้นตอนการสั่งซื้อคืออะไร
ตอบ ตัวแทนจำหน่ายจะสามารถให้ลูกค้าสั่งซื้อและจัดส่งรถได้ทุกประเภท พนักงานขายสามารถนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์กับลูกค้าและให้ลูกค้าระบุอุปกรณ์ที่ต้องการ ดูรูปประกอบบนจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงผลด้วยความละเอียดระดับสูง สั่งซื้อรถและสามารถรับทราบวันที่แน่นอนในการจัดส่ง

สมาชิกในกลุ่ม
นางสาววิภาดา พูลสระคู
นางสาวนงค์ลักษณ์ ศาลา
นางสาวจรรยา จันทอง
นางสาวศศิธร อาจบุราย
นายอิสระ สาแก้ว
สาขา บกว.4/1